Depression Medication #9

เมื่อเรารับมือโรคซึมเศร้าไม่ได้…

ผมเผชิญหน้ากับโรคซึมเศร้ามาได้หลายปีแล้ว แล้วผมก็ตัดสินใจไปหาหมอและกินยาเพื่อรักษาโรคซึมเศร้าอยู่ประมาณครึ่งปี ถามว่าดีขึ้นมั้ย คำตอบคือมันก็ดีขึ้น ดีขึ้นมากๆ มันทำให้ผมใช้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ

ในประเทศไทย ผมว่าเรายังไม่ค่อยยอมรับและเข้าใจว่า โรคซึมเศร้า มันเป็นยังไง คนไทยส่วนใหญ่(จากประสบการณ์ส่วนตัว)เข้าใจว่า โรคซึมเศร้าคืออาการของคนที่ซึมๆไม่อยากยุ่งกะใคร เก็บตัวคนเดียว ไม่เข้าสังคม เพราะคิดว่าตัวเองมีปัญหา มีความทุกข์ หลายคนมองว่าเขาเหล่านั้นอ่อนแอ คิดไม่ได้ ไม่สู้ชีวิต ลามไปถึงประเด็นเมื่อมีคนฆ่าตัวตาย หลายคนก็วิพากษ์วิจารณ์ว่า คิดไม่เป็น อ่อนต่อโลก ไม่รู้หรอว่าข้างนอกมีคนลำบากกว่าเราเยอะ แต่ผมบอกจริงๆ พวกนี้แม่งคือไม่เป็น ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นยังไง มันแย่แค่ไหน มันไม่ใช่ว่าเอนท์ทรานซ์ไม่ติดฆ่าตัวตาย หรือทำหน้าแล้วไม่สวยแล้วฆ่าตัวตาย มันไม่ใช่ว่าบ้านมีปัญหาแล้วฆ่าตัวตาย มันไม่ใช่แค่แฟนทิ้งแล้วฆ่าตัวตาย มันแม่งลึกซึ้งกว่านั้นเยอะครับ

ผมอยากจะแชร์เรื่องเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าให้ฟังนะ จากในมุมมองคนที่เป็น จากประสบการณ์ตรง จากคนที่ยอมรับโรคและกล้าที่จะรักษา ไม่ใช่เอาข้อมูลมาจากกูเกิ้ลที่จะอธิบายว่าโรคซึมเศร้าเป็นยังไง นั่นมันเป็นอาการภาพรวม แต่ลึกๆมันพิลึกกว่านั้นเยอะครับ

โรคซึมเศร้ามันส่งผลอะไรบ้างกับผมตลอดเวลาที่ผ่านมา อธิบายแบบตื้นๆนะครับ เป็นเหมือนพวกกลัวความสุขครับ คือกลัวตัวเองมีความสุข จะไม่ยอมให้ตัวเองมีความสุข จะต้องหาเงื่อนไขหรืออะไรก็ได้มาขัดขวางความสุขของตัวเอง ฟังดูไม่เมคเซนส์นะครับ คนอ่านถึงตรงนี้หลายคนอาจจะตลก คิดว่ามึงบ้าป่าว ปัญญาอ่อน ผมอยากจะบอกว่า คุณคิดไม่ออกหรอกถ้าคุณไม่เคยเป็น เพราะคุณไม่เคยมีประสบการณ์แบบนั้นไง ไม่เหมือนความเจ็บทางกายที่ใครๆก็เคยเป็น เคยหกล้ม เคยเป็นแผล เคยถูกมีดบาด เคยนู่นเคยนี่ คุณมีประสบการณ์ว่าความเจ็บมันเป็นยังไง เวลาคุณเห็นคนถูกมีดกรีด เลือดไหลซิบๆคุณก็เข้าใจว่า อ๋อ แม่งต้องเจ็บแน่ๆ (คือคิดภาพออกว่าเจ็บมันเป็นยังไง รู้สึกยังไง) ผมเชื่อว่า ถ้าคนที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือโรคในกลุ่มนี้ พอผมบอกว่า กลัวมีความสุข ทุกคนก็จะเก็ท ว่ามันเป็นยังไง

ส่วนเความรู้สึกจากโรคนี้ที่ลึกกว่านั้นผมจะค่อยๆทยอยเล่าให้ฟังครับ (จะพิมพ์ตามที่นึกออก ไม่ได้มาเรียบเรียงอะไรนะครับ อ่านแล้วอาจจะงงๆบ้าง) อย่างแรกเลยครับ ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะบอกว่า โอ้ยทีี่มึงมีอยู่อ่ะ ดีกว่าอีกหลายคน ที่มึงเป็นอยู่อ่ะดีแล้ว มีคนรักมึงมากมาย มึงทำนู่นทำนี่ได้ ผมอยากจะบอกว่า ผมคิดทุกอย่างเพื่อมาลบความคิดนี้แล้วครับ แต่แม่งทำไม่ได้ครับ พยายามคิดว่า เอ้ย เราก็ทำอันนี้ได้ทั้งๆที่หลายคนทำไม่ได้ เราก็มีคนที่รักเรา หวังดีกับเรามากมาย ผมมีเพื่อนคนนึง คือเพื่อนคนนี้ เขาอยากเข้าเรียน คณะ เดียวกับผม ซึ่งผลปรากฏว่า ผมติดและมันไม่ติด ทุกวันนี้เวลามันเครียด มันก็จะโทรหาผม บ่นบ้างว่า อยากเรียนคณะที่ผมเรียน เพื่อนที่มันเรียนอยู่ไม่เวิร์คเลย บลาบลาบลา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันควรจะทำให้ผมคิดได้ว่า เอ้ย เห็นไหมมีคนที่แย่กว่าเรานะ มีคนที่ไม่สมหวังนะ เนี่ย เราสมหวัง แต่เชื่อป่ะครับว่า ไม่ได้ช่วยลบความคิดที่ Negative กับตัวเองออกไปเลย คือผมพยายามแล้วนะ ไม่ใช่คิดไม่ได้

ต่อมาคือความรู้สึก insecure แบบสุดๆ หลายคนอาจสงสัยว่า insecure หรือว่าไม่ปลอดภัยมันเป็นยังไง ผมจะลองพยายามอธิบายเป็นรูปธรรมที่สุดล่ะกันครับ คือมันเป็นความรู้สึกกังวลแบบหนักๆ เหมือนคนนอยด์มากๆ หรือคุณต้องอยู่กับคนที่คุณรู้ว่าเขาไม่ชอบคุณ หรือความรู้สึกที่คุณต้องไปอยู่ที่ที่คุณไม่อยากไป คุณไม่ชอบ แล้วคุณอยากกลับบ้าน เพราะรู้สึกว่าบ้านปลอดภัย ไอ่ที่ๆคุณอยู่แล้วรู้สึกอยากกลับบ้านนั่นแหละมั้งที่เรียกว่า insecure คือผมเป็นหนักมากๆหลังจากเลิกยาไปสักพักใหญ่ๆ (ก่อนหน้ากินยาเป็น แต่ยังไม่หนักเท่าตอนนี้) คือผมจะรู้ insecure ตลอดเวลา ไม่ว่าผมจะอยู่กับเพื่อน เดินห้าง กินข้าว เดินทาง และที่เหี้ยที่สุดที่คือผมรู้สึก insecure แม้ว่าผมอยู่ในห้องส่วนตัว ในบ้าน คนเดียว คือสำหรับผม บ้านเนี่ย คือที่ๆแม่งควรจะ feel safe ที่สุดละ คือไปเจอเหี้ยไรมา ขอแค่กลับบ้านก็ควรจะสบายใจ แต่อาการผมเนี่ยตอนนี้ไม่มีอะไรรั้งอยู่ คือทั้งๆที่ผมรู้นะว่า เพื่อนผมดี ครูผมดี พ่อแม่พี่น้อง ผมดี ทุกคน friendly กับผม ทุกคน happy กับผมหรือไรก็แล้วแต่ ผมก็ยังรู้สึก insecure อยู่และพักหลังๆนี่เป็นมากๆเลยครับ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนกับใครหรือคนเดียว แม่งโคตรแย่

ต่อมาคือ เรื่องดีๆหรือเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นในชีวิต แม่งก็เหี้ยหมด กล่าวคือ เวลาสมมติมีอะไรที่ดีเกิดขึ้น เช่น ทำงานแล้วคนชม หรือพยายามแล้วสำเร็จ ที่ผมเฟลสุดๆคือผมไม่เคยยินดีกับมันได้จริงๆเลย ไม่รู้สึกภูมิใจในตัวเอง (ทั้งๆที่รู้ว่าควรรู้สึก ชีวิตเราควรได้รับรางวัลในชีวิตบ้าง) แต่ผมทำไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น ผมเอ็นติดขณะที่ผมอยากเรียน แล้วไง สิ่งที่ควรคิดคือ เนี่ยๆเห็นมั้ย มีอีกหลายพันหมื่นคนผิดหวังที่เอ็นไม่ติดนะ กูเก่งแล้วว กูโชคดีแล้ว แต่แม่งทำไม่ได้ครับ คือสิ่งที่คิดคือ คนอื่นเก่งกว่ากูเยอะ กูฟลุก กูไม่ได้เก่งอะไรเล้ย แล้วเวลามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแล้วเรามีส่วนกับสิ่งนั้น เช่น งานกลุ่มเราไม่ดี ทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดเราเลยสักนิ๊ด แต่แม่ง จะหาเรื่องมา blame ตัวเองได้ ว่าเรามันแย่ เรามันไม่ดี ทำให้ออกมาไม่ดี เห็นมั้ยเป็นเพราะเรา (ทั้งๆที่ลึกๆก็รู้ว่า แม่งความผิดมึงชัดๆไม่เกี่ยวกะกู) อาจจะเหมือนพวกเสพย์ติดความทุกข์อ่ะครับ หรือเอะอะก็โยนความผิดให้ตัวเอง จนมันส่งผลให้รู้สึกแย่กับตัวเองมากๆ

อาการเหล่านี้ ดันมาประกอบกับนิสัยส่วนตัวของผมอีก คือผมรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่มีกำแพงมากมากมาก คือจะไม่ยอมให้ใครเข้ามารู้จักตัวเองมากเกินไป (แม้แต่คนในครอบครัว) แต่ผมก็จะมีวิธีทำให้พวกเขารู้สึกว่าใกล้ผมมากพอ ซึ่งนิสัยตรงนี้ทำให้ผมไม่พูดอะไรกับใครทั้งสิ้น มีอะไรหนักใจก็จะเก็บไว้และก็เชื่อว่าตัวเองจะผ่านไปได้ และก็ผ่านไปได้หลายครั้ง แต่มาทุกวันนี้ไม่แน่ใจว่าเราผ่านมันมาได้จริงหรือเปล่าว่ะ หรือว่าเราแบกมันมาตลอด ?

คือที่ผมอยากจะอธิบายระบบการทำงานของโรคซึมเศร้าตามหลักวิทยาศาสตร์แบบง่ายๆ คือมันเกิดจากปริมาณสารเคมีในสมองบางชนิดมันมีมากหรือน้อยเกินไป (คือมันไม่สมดุล) (เขาว่ากันว่าสารนั้นคือ สารเคมีที่เรียกว่า เซโรโตนิน Serotonin) คือมันสารที่ทำให้เราใช้ชีวิตประจำวันของเราไปในแต่ละวัน แต่เชื่อว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้าเนี่ย มันมีสารนี้น้อย ยากลุ่มแก้อาการซึมเศร้าเลยใช้ยาที่เรียกว่า SSRIs (selective serotonin reuptake inhibitors) อธิบายง่ายๆคือ มันไปเพิ่มระดับสาร Serotonin ในสมอง ทำให้เราใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติเหมือนคนอื่นเค้า ซึ่งสมองมันควบคุมทุกอย่างในร่างกายใช่ป่ะ ดังนั้นพอระดับสารมันเปลี่ยนปุ๊ป ทุกระบบในร่างกายเลยต้องปรับตัวใหม่ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมยากลุ่มนี้ถึงมี Side Effect ที่เยอะเหี้ยๆ ไม่ว่าจะเป็น ท้องเสียท้องผูก นอนไม่หลับหรือง่วงตลอดเวลา เหงื่อออก หายใจไม่ทัน กินไม่ลงหรือหิวตลอด อาเจียนตลอดเวลา บลาบลาบลา นั่นเพราะว่า ระบบขับถ่าย ระบบย่อย ระบบหายใจ และทุกๆระบบในร่างกายเรา มันต้องปรับตัวให้สมดุลกับปริมาณสารใหม่นี้นี่แหละ

มาถึงเรื่องที่แย่ที่สุดของโรคซึมเศร้าที่ทุกคนน่าจะเข้าใจตรงกัน นั่นก็คือ มันจะนำไปสู่การฆ่าตัวตาย สำหรับผมนะ คือที่ผ่านมาเนี่ยคิดเสมอเลยว่า คนที่ฆ่าตัวตายแม่งงงงงโง่สาดดด คิดไม่เป็นหรอออ รู้มั้ยมึงตายไปเนี่ย คนอื่นเค้าเสียใจชิบหายนะ พ่อแม่เลี้ยงมึงมา เสียตังค์ไปเท่าไหร่ ทุ่มเทไปเท่าไหร่แล้วมึงมาตายหรออ เหี้ยยเอ้ยย แค่เอ็นไม่ติดเนี่ยนะ โง่สาดดด แฟนทิ้งหรอ ปัญญาอ่อนว่ะ แฟนแม่งก็หาใหม่ได้ เค้าไม่ใช่ทั้งชีวิตมึงหรอกก ควายยยย

อย่างหนึ่งคือว่า นิสัยผมเป็นคนที่ไม่ชอบแชร์ความทุกข์หรือเรื่องส่วนตัวให้ใครฟังครับ มีปัญหาอะไรก็จะพยายามแก้เอง คือเหมือนมีนโยบายว่า กูจะไม่ทุกข์ให้ใครรู้ว่ากูทุกข์ ประมาณว่าไม่อยากให้ใครมาสงสารอะไรเท่าไหร่ครับ ผมมีคนที่มาขอคำปรึกษาผมบ้าง และผมสามารถให้คำแนะนำดีๆ แง่คิดดีๆบ้าง ผมเป็นคนที่พยายามแก้ปัญหาทุกอย่าง คือมีทัศนคติมาตลอดว่าทุกปัญหามีทางออกนะ และผมก็พยายามศึกษาโรคซึมเศร้า ทั้งปรับทัศนคติ วิธีคิด หรือแม้แต่ศึกษาธรรมะ คือผมก็ได้ลองพยายามทำเกือบทุกอย่างที่คิดว่าจะช่วย จนกระทั่งไม่ไหว เลยมาปรึกษาหมอและกินยา พอกินยาแล้วดีขึ้น ดีขึ้นมากๆ ผมก็ไม่อยากใช้ชีวิตแบบ depend on ยา เลยตัดสินใจหยุดยาในระยะที่สั้นที่สุดคือครึ่งปีแล้วหยุด ซึ่งแม่ง ปรากฏว่าไม่เวิร์ก

คือตอนนี้ผมแม่ง โคตรเศร้าอ่ะ แล้วก็เศร้าแบบไม่มีเหตุผล คือผมมานั่งลิสต์ว่าผมควรเศร้าจากเรื่องอะไรบ้าง แม่งพูดตรงๆลิสต์มาก็น้อย แล้วก็รู้สึกเป็นเรื่องเล็กๆทั้งนั้น แต่ก็นะ มันเลิกความคิด หยุดความรู้สึกกันไม่ได้นิหว่า เหมือนคุณโกรธใครสักคน มันไม่ใช่ว่าคุณคิดว่าไม่โกรธแล้วมันจะหาย มันจะมีอะไรสักอย่างมาบรรเทาความโกรธหรือได้ระบายอะไรออกมา นั่นแหละมันไม่ได้หายไปง่ายๆหรอกครับ

แต่สารภาพเลยครับ ว่า ณ วันนี้ วินาทีนี้ ที่เขียนบลอคนี้อยู่ ผมมีความคิดฆ่าตัวตายมาประมาณ 2 อาทิตย์แล้ว (รู้นะว่าฆ่าตัวตายไม่ดีนะ บาปนะ ลองคิดถึงพ่อแม่สิ คิดถึงเพื่อน คิดถึงคนที่รักเราสิ อยากจะบอกว่าพวกนี้คิดมาหมดแล้วครับ แต่ไม่มีอะไรหักล้างได้)คือคุณลองคิดดูสิครับว่า ความรู้สึกที่คุณไม่แคร์ว่ามีคนเป็นห่วงคุณ มีคนรักคุณ มีคนต้องการคุณ แต่คุณก็ยังรู้สึกไม่ดีกับตัวเองอีก จะมองโลกในแง่ดีแค่ไหน คุณก็หลุดออกมาจากความคิดนั้นไม่ได้ ประกอบกับคุณรู้สึกไม่ปลอดภัย แม้ว่าคุณจะอยู่คนเดียว อยู่ในห้องน้ำคนเดียว อยู่ในบ้าน สถานที่ที่คุณควรจะรู้สึกสบายใจที่สุด วันๆคุณนั่งตอกย้ำตัวเองในความไม่ดีของตัวเอง หรือโทษตัวเองในหลายๆเรื่อง(ที่แม่งไม่ใช่เรื่องของคุณ) คือต่อให้จะมีคนที่รักคุณ มาบอก เฮ้ยย กูรักมึงนะ ถ้ามึงตายไป กูจะอยู่ยังไง พ่อแม่มึงล่ะ บลาบลาบลา ขอบอกครับคือแม่งไม่มีประโยชน์เลย กูลองคิดทุกสิ่งที่พวกมึงจะพูดมาหมดแล้ว แล้วยังไงล่ะทีนี้ คุณรู้สึกแย่กับตัวเอง ในขณะที่คุณรู้สึกไม่ปลอดภัยแม้จะอยู่คนเดียว มันเท่ากับว่าคุณไม่มีทางออกไปไหน ดังนั้น ความตายมันคือทางเดียว ที่คุณไม่ต้องทนทุกข์กับความรู้สึกนี้ในวินาทีข้างหน้า ฉะนั้นตายดีกว่า

ถ้าคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้วเกิดคำถามว่า เอ๊า มึงรู้สึกแบบนี้มา 2 อาทิตย์ยังไม่ตายอีกเรอะ ก็คือผมก็พยายาม handle สถานการณ์นี้อยู่ครับ และจะขอดูอาการอีกสักพัก ถ้าไม่ไหวคงเลือกจะกลับไปกินยา แล้วก็ยอมรับว่าตัวเองป่วย แล้วชีวิต depend on ยาก็ไม่ใช่เรื่องแย่ คนเป็นเบาหวานก็ต้องกินอินซูลินตลอด เป็นมะเร็ง เป็นอะไรเป็นเยอะแยะ เราก็เป็นแค่โรคนึง แค่นั้นแหละ (พูดง่ายเนอะ) หรือบางคนอาจคิดว่า โอ้ยยย ชีวิตมึงดีกว่ากูเยอะ กูลำบากกว่ามึงเยอะ กูยังไม่เห็นเป็นไร มึงนี่อ่อนแอ ผมก็อยากบอกว่า หนึ่งครับ มันไม่เกี่ยวกับ ผมกำลังพูดถึงระดับสารเคมีในสมองว่ามันส่งผลต่อผมอย่างไร และสองครับคุณไม่รู้หรอกครับว่าผมผ่านอะไรมาบ้าง เพราะผมไม่ใช่ประเภทเล่าให้คนอื่นฟัง คือผมก็มี background ที่ trauma เยอะไม่น้อยกว่าคนอื่นครับ แต่ก็อย่างที่บอกคือผมก็ไม่ชอบให้ใครมาเห็นใจหรือสงสารเท่าไหร่ แล้วก็ผมรับผิดชอบตัวเองครับ

ไม่รู้ว่าจะอธิบายให้เข้าใจได้ยังไง คือโรคซึมเศร้ามันก็เป็นโรคที่เกิดจากสารเคมีในสมองเหมือนๆกับกลุ่มโรค hyper โรคย้ำคิดย้ำทำ ที่แบบ คนที่ต้องเก็บของเรียบร้อยตลอดเวลา ต้องล้างมือตลอดเวลา คือพวกคุณเห็น พวกคุณไม่เข้าใจหรอกว่า เวลาที่เขาเห็นของวางไม่เรียบร้อย มันรู้สึกทรมานแค่ไหน คือแม่งต้องเข้าไปจัดให้เข้าที่ หรือแบบว่ารู้สึกว่ามือแม่งสกปรกตลอดเวลา ทั้งๆที่ก็รู้ว่าไม่หรอก ไม่สกปรกหรอก แต่ก็ต้องล้างมือเพื่อให้ความรู้สึกนั้นหายไป

ก็มันเป็นอาการทางจิต มันเป็นนามธรรม เป็นความรู้สึก มันอธิบายให้คนเข้าใจยาก มันไม่เหมือนโรคทางกาย ที่เป็นมะเร็ง แล้วคีโม แล้วผมร่วง หรือเป็นแผลสด แผลเปิด เจ็บ แสบ โดนยุงกัดแล้วคัน พวกนี้มันเป็นรูปธรรม มันเห็นภาพ มันเก็ท ส่วนเรื่องความรู้สึกแม่ง มันเข้าใจกันยาก…

บอกเลย โรคซึมเศร้าแม่งโหดครับ และถ้าคุณไม่เป็น คุณไม่รู้หรอกครับว่ามัน Suffer ขนาดไหน